วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนคร้งที่11
วันพุธที่21มีนาคม2561

นางสาวณัฐธิดา ธรรมแท้ นำเสนอตัวอย่างการสอน เรื่อง การเรียนรู้จำนวนตัวเลขมากกว่าน้อยกว่า  ให้เด้กได้เห็นจำนวนจริงใช้ของจริงหยิบจับได้ เห็นค่าจำนวนไอศกรีมแล้วใช้เลขกำกับ อาจารย์เพิ่มเติมว่า สอนจำนวนเท่ากันก่อนค่อยหาว่าอันไหนมากกว่าน้อยกว่า นำไปใช้ในการสอนได้
นางสาวปวีณา พันธ์กุล นำเสนอบทความ วิธีเรียนคณิตศาสตร์ในห้องครัวกับคุณแม่
1.ชั่ง ตวง สอนหน้ำหนัก
2.หั่นผัก สอนรูปทรง
3.แม่พิมพ์ สอนรูปทรงต่างๆ
4.นับเลขเช่น นับเวลาในการรอ อบ หรือ ใส่น้ำตาลกี่ช้อน
นางสาวณัฐชา บุญทอง นำเสนอบทความเลขคริตคิดสนุก
แนะนำพ่อแม่สอนลูกๆจากกิจกรรมในบาน 
พ่อแม่มีส่วนร่วมในการสอนคณิตศาสตร์ ชวนลูกพูดคุยให้ฝึกคิด
กิจกรรมที่1 ทำเยลลี่ให้ ได้ทักษะ ชั่ง ตวง วัด
กิจกรรมที่2 การประดิษฐ์กล่องของขวัญ ได้การวัด รูปทรง
แนวคืดแบบไฮสโคป ได้หาข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า
1. การวางแผน (Plan) เป็นการกำหนดแนวทางการปฏิบัติ หรือการดำเนินงานตามงานที่ได้รับมอบหมายหรือสิ่งที่สนใจด้วยการสนทนาร่วมกันระหว่างครูกับเด็ก และเด็กกับเด็ก ว่าจะทำอะไร อย่างไร การวางแผนกิจกรรมนี้เด็กอาจแสดงด้วยภาพหรือสัญลักษณ์ประจำตัวเด็กหรือบอกให้ครูบันทึก เป็นกระบวนการที่เด็กมีโอกาสเลือกและตัดสินใจ
2. การปฏิบัติ (Do) คือ การลงมือทำกิจกรรมตามแผนที่วางไว้ เป็นส่วนที่เด็กได้ร่วมกันคิด แก้ปัญหา ตัดสินใจ และทำงานด้วยตนเอง หรือร่วมกับเพื่อนอย่างอิสระตามเวลาที่กำหนดโดยมีครูเป็นผู้ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือในจังหวะที่เหมาะสม เป็นส่วนที่เด็กได้มีการพัฒนาการพูดและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสูง
3. การทบทวน (Review) เด็ก ๆ จะเล่าถึงผลงานที่ตนเองได้ลงมือทำเพื่อทบทวนว่าตนเองนั้นได้ปฏิบัติงานตามแผนที่ได้วางไว้หรือไม่ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร การทบทวนจุดประสงค์ที่แท้จริงคือ ต้องการให้เด็กได้เชื่อมโยงแผนการปฏิบัติงานกับผลงานที่ทำ รวมถึงการเล่าประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้ลงมือทำด้วยตนเอง

จุดเด่นของแนวการสอนไฮสโคป (High Scope)

การจัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ ในเมื่อหลักการของแนวนี้คือให้เด็กริเริ่มกิจกรรมด้วยตนเอง ดังนั้น การจัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศก็จำเป็นต้องเอื้อต่อการเรียนรู้ มีการลื่นไหลของกิจกรรม และทำให้เด็กเกิดความรู้สึกกระตือรือร้น
1. พื้นที่ ต้องมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมเป็นกลุ่ม เพื่อให้เอื้อต่อการเรียนการสอนที่เน้นการเรียนแบบร่วมมือกระทำ มุมสำคัญที่ควรมี คือ มุมศิลปะ มุมหนังสือ มุมบ้าน มุมวิทยาศาสตร์ มุมบล็อก
2. วัสดุอุปกรณ์ สื่อการเรียนและอุปกรณ์ต้องมีมากพอและหลากหลาย เพื่อช่วยให้เด็กได้เรียนรู้พัฒนาแผนการทำงาน และดำเนินการตามแผน
3. การจัดเก็บ เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้เกี่ยวกับวงจรการค้นหา-ใช้-เก็บคืน ดังนั้น การจัดวางสิ่งของในห้องเรียนก็ต้องเอื้อให้เด็กได้เรียนรู้ด้วนตนเอง ครูต้องจัดวางอุปกรณ์ให้เด็กสามารถค้นหาได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย เด็กสามารถหยิบมาใช้และเก็บคืนได้เอง กระบวนการทั้งหมดนี้จะช่วยส่งเสริมให้เด็กรู้จัดสังเกต เปรียบเทียบ มีความรับผิดชอบและช่วยเหลือ

ประโยชน์ของแนวการสอนไฮสโคป (High Scope) ที่มีต่อเด็ก

1. สอนให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้อื่น ซึ่งเริ่มต้นจากความไว้วางใจโยครูต้องเป็นผู้สร้างความไว้วางใจให้แก่เด็กเพื่อให้เด็กได้ลงมือทำกิจกรรมหรือชิ้นงานตามความสนใจของตนเองและมีความสนุกในการเรียนรู้ที่จะทำงาน
2. การลงมือทำงานฝึกให้เด็กวางแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน เป็นระบบ
3. เด็กได้ฝึกสมาธิทำให้เด็กเกิดปัญญา ฝึกความมีระเบียบวินัย  ฝึกการคิดอย่างมีความหมาย ผลที่ตามมาคือ ความสำเร็จในการทำงานที่ได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง  ได้เรียนรู้และมีความสุขในการทำงานที่ตนสนใจ
การเรียนแบบ ไฮสโคป (High Scope) ถือเป็นแนวการเรียนการสอนที่น่าสนใจเพราะเน้นในการพัฒนาศักยภาพของเด็กอย่างแท้จริงไฮสโคป เป็นการเรียนที่ไม่จำเป็นต้องเรียนที่โรงเรียนเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่อาจนำแนวทางนี้มาสอนลูกเมื่ออยู่ที่บ้านก็ได้  เพราะการที่เด็กได้ทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง  ย่อมสร้างความภาคภูมิใจเมื่อทำสำเร็จ และฝึกให้ลูกเป็นคนกล้าคิดกล้า มีความคิดสร้างสรรค์  เรียนรู้การทำงานอย่างมีระบบ  ขั้นตอน และเรียนรู้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง   
-การเรียนคณิตศาสตร์ด้วยลูกบอล การวางแผนให้เด็กคาดคเนด้วยสายตา ว่ามีลูกบอลในถุงเท่าไหร่

-การตั้งโจทย์ให้เด็กแยก2กลุ่มเท่าๆกัน อยู่ในมาตราฐานคณิตศาสตร์สาระที่1จำนวนและการดำดเนินการ
-ให้เด็กนับจากซ่ายไปขวาเสมอและใช้เลขฮินดูอารบิกมากำกับ
-การแยกจำนวนออกจากกลุ่มใหย์แล้วบอกจำนวนที่เหลือและจับคู่1ต่อ1 เปรียบเทียบมากกว่าน้อยกว่าให้เด็กเห็นภาพ
-การตั้งโจทยือนุกรม ต้องมีแพทเทิร์นอย่างน้อย2แพทเทิร์นให้เด็กได้จับทางได้



-การสอนสมมาตรให้เด็กได้ลงมือทำเอง หาเงาของภาพที่ตัดให้สังเกต
 และหาคำตอบ ด้วยของจริงหยิบจับได้

-การแรเงาภาพ ให้เเป็นรูปที่ไม่ซำกัน ใน1แผ่นกระดาษจะสามารถทำได้กี่ช่อง


การประเมิน
ประเมินตนเอง ตั้งใจฟังสิ่งที่เพื่อนนำเสนอ ฟังสิ่งที่อาจารย์สอน 
ประเมินเพื่อน เพื่อนตั้งใจเรียน อบคำถามอาจารย์ได้
ประเมินอาจารย์ อาจารย์สอนให้เเห็นภาพเหมือนบรรยากาศที่จะนำไปสอนเด็กจริงๆ ทำใหง่ายต่อการเข้าใจ คือเรรียนรุ้จากของจริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานที่ได้รับมอบหมาย การสร้างรูปเรขาคณิตและรูปทรงเลขาคณิตโดยมีไม้จิ้มฟันและดินน้ำมันเป็นส่วนประกอบ 1.รูปเรขาคณิต  รูปสี่เหลี่ยม 2....